จรรยาบรรณนักลงทุนสัมพันธ์
ข้อพึงปฏิบัติของนักลงทุนสัมพันธ์
- ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
- เปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นอย่างครบถ้วนและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
- เปิดโอกาสให้บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและสอบถามข้อมูลได้
- ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียเป็นที่ตั้ง
- รักษาความลับของบริษัทและไม่ใช้ข้อมูลภายในเพื่อประโยชน์ส่วนตน
- ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และมีความเป็นมืออาชีพ
- หมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน
- ปฏิบัติตามแนวทางการไม่รับนัดในช่วงใกล้ประกาศงบการเงินและแนวปฏิบัติในการซื้อขายหุ้นที่บริษัทได้กำหนดไว้
ข้อมูลทางการเงิน
งบการเงิน
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ
การวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการ
1. วิเคราะห์การดำเนินงานและฐานะการเงิน (ตามแบบสอบทานการเปิดเผยข้อมูล)
ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจ
(1) ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจ
จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องจากปี 2563 ทำให้ธุรกิจให้เช่ารถและธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยมีรายได้ลดลง บริษัทย่อยยังคงใช้มาตรการรักษาฐานลูกค้า เช่น การขยายสัญญาเช่ารถหรือผ่อนปรนช่วยเหลือสนับสนุนลูกค้าตามสถานการณ์ที่จำเป็น
บริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจให้เช่ายานพาหนะ ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการรูปแบบต่างๆ ที่มีมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มในการให้บริการ และการนำเทคโนโลยีมาใช้งานบริหารจัดการเพื่อการวิเคราะห์พัฒนาการบริการให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเป้าหมายกลยุทธ์การให้บริการถให้เช่าจึงมุ่งเน้นลูกค้าที่ให้ผลตอบแทนที่สอดคล้องกับงานบริการด้านคุณภาพงานบริการและด้านความปลอดภัย เป็นต้น
ส่วนธุรกิจให้บริการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย ได้รับผลกระทบจากประกันภัยรถยนต์หลักจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้เช่าที่มีปริมาณลดลง แต่สำหรับลูกค้ารายอื่นๆ ยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีการต่ออายุกรรมธรรม์ในส่วนของประกันภัยประเภทรถยนต์และอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จากการรักษาคุณภาพการให้บริการ การคัดเลือกผลิตภัณฑ์และบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
และบริษัทย่อย: บริษัท พรีเมียร์ แคปปิตอล (2000) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับบริษัทในกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ประมาณการให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ลดลงจากการปรับนโยบายการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของบริษัทในกลุ่มฯ แต่ละแห่ง
รายงานงบการเงินประจำปี 2564 ของบริษัทและบริษัทย่อย ผู้สอบบัญชียังคงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินอันเนื่องจากผลของคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ตามที่บริษัทได้ยื่นขอฎีกาและศาลฎีกามีคำสั่งรับฎีกาไว้พิจารณาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1,183 ล้านบาท และกรณีที่บริษัทถูกยึดหุ้นของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งเพื่อนำไปขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้มาชำระในคดีหนี้สินภาษีที่มีต่อกรมสรรพากรและคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา จากการดำเนินการขายทอดตลาดโดยสำนักงานบังคับคดีแพ่ง ตั้งแต่ปี 2562 ถึง 2564 โดยการขายทอดตลาดในครั้งล่าสุดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 29 มกราคม 2563 ไม่ปรากฎว่ามีผู้เสนอซื้อหุ้นดังกล่าวแต่อย่างใด และในปี 2564 สำนักงานบังคับคดีจัดให้มีการขายทอดตลาด แต่ต่อมากรมบังคับคดีได้มีประกาศยกเลิกการขายจากสาเหตุขั้นตอนภายในของกรมบังคับคดีเอง ทำให้ปี 2564 ยังไม่ได้มีการขายทอดตลาดหุ้นดังกล่าว ปัจจุบันบริษัทย่อยแห่งนี้ยังคงมีฐานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทย่อยดังกล่าวดำเนินธุรกิจให้เช่ายานพาหนะซึ่งเป็นส่วนงานหลักของกลุ่มบริษัท จากปัจจัยดังกล่าวแสดงถึงความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญ จึงเป็นเหตุให้ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน
(2) ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรสำหรับงวด จำนวน 13.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 15.98 ล้านบาท ในงวดมีผลกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 5.26 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมารับรู้เป็นผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 5.71 ล้านบาท ทำให้กำไรจากมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินเพิ่มขึ้นจำนวน 10.97 ล้านบาท รายการเปลี่ยนแปลงของการดำเนินงานที่สำคัญ มีดังนี้
1. รายได้ค่าเช่าและค่าบริการมีจำนวน 332.23 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 139.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.50 จากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ต่อเนื่องส่งผลต่อธุรกิจลูกค้าของบริษัทย่อยโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการด้านการรับส่งและรถโรงเรียน บริษัทย่อยยังคงใช้มาตรการในการรักษาฐานลูกค้าโดยดำเนินโครงการขยายสัญญาเช่าหรือการผ่อนปรนช่วยเหลือสนับสนุนตามสถานการณ์ที่จำเป็น และการรักษาฐานลูกค้ากลุ่มที่สอดคล้องกับงานบริการที่เพิ่มคุณภาพของบริษัทย่อย อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 38.97 ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน (2563: 39.00)
2. ในปี 2564 การแพร่ระบาดของโควิค 19 ยังคงมีอยู่ การดำเนินมาตรการของรัฐเพื่อการจัดการสถานการณ์ดังกล่าวทำให้กิจกรรมของตลาดรถยนต์คลายตัวมากขึ้น ส่งผลให้ราคาตลาดรถยนต์ใช้แล้วมีราคาสูงกว่าปีก่อนในกลุ่มรถยนต์บางประเภท บริษัทย่อยจึงมีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ยานพาหนะให้เช่าจำนวน 1.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.31 ล้านบาท ปริมาณรถที่ขายในปีมีจำนวน 368 คัน
3. ค่าใช้จ่ายในการบริหารในงวดมีจำนวน 102.51 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 28.22 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 21.59 เนื่องจากในปี 2563 บริษัทย่อยแต่ละแห่งได้มีการปรับองค์กรเพื่อให้ขนาดขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงมีผลให้ค่าใช้จ่ายบริหารในปี 2564 ลดลงอย่างต่อเนื่อง
4. ต้นทุนทางการเงินในงวดมีจำนวน 24.11 ล้านบาท ลดลง 14.47 ล้านบาท จากการจ่ายชำระตามสัญญาเช่าทางการเงิน และการก่อหนี้สำหรับซื้อยานพาหนะมีจำนวนลดลง
5. ค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้ในงวดมีจำนวน 2.46 ล้านบาท เป็นรายการภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีทั้งจำนวน
(3) ฐานะการเงิน
สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 964.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดปีก่อน 258.22 ล้านบาท รายการที่เปลี่ยนแปลงที่สำคัญมีดังนี้
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เพิ่มขึ้นจำนวน 9.76 ล้านบาท
สินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น เป็นการนำเงินไปลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้ เพื่อการบริหารการเงินระยะสั้น อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.28
ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นลดลงจำนวน 7.18 ล้านบาท จากลูกหนี้ของธุรกิจให้เช่ายานพาหนะ
สินทรัพย์ภาษีเงินได้ในงวดปัจจุบัน เป็นรายการภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายในปี 2564 มีจำนวน 21.18 ล้านบาท
ยานพาหนะให้เช่าและอุปกรณ์มีจำนวน 203.12 ล้านบาท ประกอบด้วย ยานพาหนะให้เช่าส่วนที่ปลอดภาระด้านหนี้สินมีจำนวน 188.49 ล้านบาท และอุปกรณ์สำนักงานจำนวน 14.63 ล้านบาท ส่วนยานพาหนะให้เช่าที่มีภาระด้านหนี้สินแยกแสดงรายการรวมอยู่ในสินทรัพย์สิทธิการใช้จำนวน 504.86 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน รายการยานพาหนะให้เช่าและอุปกรณ์รวมถึงสินทรัพย์สิทธิการใช้มีจำนวนลดลง 204.28 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายการยานพาหนะให้เช่าที่มีการจำหน่ายในงวด
สินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียนในงวดมีจำนวน 41.62 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนในกองทุนตราสารทุน และในงวดมีผลกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวน 5.26 ล้านบาท
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น จำนวน 49.00 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายการภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายที่อยู่ระหว่างการตรวจคืนของสรรพากร และในงวดได้รับคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายของปี 2561
หนี้สินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 816.98 ล้านบาท ลดลงจากงวดปีก่อน 274.97 ล้านบาท รายการที่เปลี่ยนแปลงสำคัญ มีดังนี้
หนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงินมีจำนวนรวม 446.96 ล้านบาท ลดลงจากงวดปีก่อน 243.46 ล้านบาท จากการชำระหนี้ตามสัญญาเช่าทางการเงิน
หนี้สินทางการเงินไม่หมุนเวียน เป็นรายการเงินมัดจำค่าเช่ารถยนต์ที่รับจากลูกค้า แยกแสดงรายการออกจากรายการหนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น ตามมาตรฐานรายงานทางการเงินเรื่องสัญญาเช่าในงวดมีจำนวน 17.79 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 8.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามสัญญาเช่าที่ครบกำหนดอายุเช่า
สำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานจำนวน 24.21 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 18.70 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้างขนาดธุรกิจของบริษัทย่อย และมีการคำนวณประมาณผลประโยชน์พนักงานระยะยาวใหม่ ณ สิ้นปี 2564
ส่วนของผู้ถือหุ้น งบการเงินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 แยกแสดงรายการเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยที่ถูกบังคับคดีเพื่อการขายทอดตลาด ดังนี้
ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท (PE) มีจำนวนต่ำกว่าศูนย์ 188.52 ล้านบาท เนื่องจากหักด้วยมูลค่าสุทธิของหุ้นบริษัทที่ถูกบังคับคดีเพื่อขายทอดตลาด
ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยที่ถูกบังคับคดีเพื่อการขายทอดตลาด จำนวน 335.62 ล้านบาท ซึ่งมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อย (บริษัท พรีเมียร์ อินเตอร์ ลิซซิ่ง จำกัด) เพื่อสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงในรายงานทางการเงิน
(4) สภาพคล่องและแหล่งเงินทุน
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน มาจากธุรกิจให้เช่ายานพานะ ธุรกิจนายหน้าประกันภัย และธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีกระแสเงินสดสุทธิในปี 2564 จำนวน 129.60 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 70.70 ล้านบาท อันเนื่องจากรายได้ลดลง
เงินสดจากกิจกรรมลงทุนมีจำนวน 174.07 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 14.84 ล้านบาท จากเงินรับจากการจำหน่ายยานพาหนะให้เช่าลดลง 51.64 ล้านบาท เงินลงทุนซื้อยานพาหนะให้เช่าและอุปกรณ์ลดลง 2.46 ล้านบาทและซื้อหน่วยลงทุนในงวดลดลง 63.64 ล้านบาท
เงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินมีจำนวน 313.43 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 43.45 ล้านบาท เนื่องจากชำระคืนหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงินซึ่งเป็นไปตามภาระหนี้ของการซื้อยานพาหนะให้เช่า
2. ปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต (Forward Looking)
การดำรงสถานการณ์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปัจจุบันบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน กรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ตั้งแต่งบการเงินปี 2563 ส่งผลให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน รวมถึงการสรรหาบุคคลเพื่อมาดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงทำให้ ณ ปัจจุบันบริษัทมีสถานะเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อ การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ ปี 2564